ไฮไลท์โกล

มิไคโล มูดริค ของจริงหรือก็อบเกรด A?

มิไคโล มูดริค

บ้างก็ว่า ดาวจรัสแสงแห่งยูเครน บ้างก็ว่า เนย์มาร์แห่งยูเครน เอาเป็นว่าอะไรก็ช่าง มึงเป็นใครก่อนดีกว่าไอหนุ่มผู้แบกความหวังในวันที่ “สิงห์บลู”เชลซี ร่อแร่ ถึงยอมไฮแจ็คใส่ “ปืนใหญ่”อาร์เซน่อล กลาง ตลาดซื้อขายนักเตะ แบบดิบๆ กับค่าตัว 100ล้านยูโร(3,600ล้านบาท) กับชายวัยรุ่นทรงอย่างแบด แซดกับผมแหกหีควายในวัย 22 ปี

ไรนาร์ส อัคเมตอฟ ประธาน ชัคเตอร์ โดเน็ทส์ ได้เผยกับสื่อ ข่าวฟุตบอล ว่า จริงๆเขาเองก็อยากเก็บ มูดริค ไว้ลุยศึกยุโรป เพราะฟอร์มกำลังจัดจ้าน แต่ก็นั่นแหละเขาเองก็ไม่สามารถปฎิเสธการเอาเงินทุ่มใส่หน้า 100ล้านยูโรได้สำหรับเด็กวัย 22 ปี ที่ผ่านการลงสนามใหญ่ทั้งหมดเพียง 65 นัด

แต่ด้วยผลงานกับต้นสังกัดเก่า ชัคเตอร์ โดเน็ทส์ 12 นัด 7 ประตู 7 แอสซิสต์ กับอีก 3 ใบเหลืองกับตำแหน่งปีกซ้าย ผลงานแบบนี้ใครๆก็ต้องเหลียวมองบ้างแหละ และก็เป็น เชลซี ที่ทุ่มใส่ปีกดาวโรจน์รายนี้ให้ป็นหนึ่งในปีกที่ค่าตัวสูงที่สุดในโลก HG จะมากะเทาะไอ้หนุ่มรายนี้ว่า เอ็งเป็นใครแล้วฝีตีนแบบนี้ควรไปอยู่ระดับไหน

แต่ก็นั่นแหละท่านผู้ชมชื่อของ มูดริก ใน ตลาดนักเตะ ไม่ได้ใหม่ เพราะมี อาร์เซน่อล จ่าฝูงร่วมเมืองที่จับจ้องอยากจะจับจองมานมนาน แต่ไม่เข้าดีลซักที ก็เลยโดน สิงห์บุญทุ่มปาดใส่ซะ ถือว่า ไอ้เด็กหนุ่มชาวยูเครเนี่ยน มันโตไวเกินไปไหม เขาก้าวสู่ระดับท็อปอย่างรวดเร็ว แล้วที่หลายคนกล้าการันตีว่า เขาเนี่ยแหละ ของจริง

จุดเริ่มต้นของไอ้หนุ่มนามว่า มิไคโล มูดริค

มิไคโล มูดริค

จุดเริ่มต้นของ มูดริค คือไอ้หนูที่เกิดเมือง Karsnohrad แต่เลือกไปเริ่มต้นชีวิตฟุตบอลใน Kharkiv โดยเข้าร่วมทีม Metalist ในปี 2010 ด้วยวัยเพียง 9 ขวบ โดยเจ้าตัวเป็นโรคอินซอมเนีย(โรคนอนไม่หลับ)ตั้งแต่ 9 ขวบ แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปเพราะคุณยายของเขาสอนให้เขาเคร่งในศาสนาและเดินตามรอยเส้นทางของพระเยซู สังเกตได้จากรอยสักที่คอของเขา

และเพราะความเชื่อมั่นในพระเจ้า เขาถึงผลักดันความสามารถตัวเองให้มาอยู่ในจุดนี้ได้ โดยเขาใช้เวลาอยู่กับ Metalist 4 ปี ก่อนย้ายไปเข้าร่วมทีม Dnipropetrovsk และเริ่มสร้างชื่อให้ตัวเองด้วยการเป็น ดาวรุ่งที่ลีลาจัดจ้านที่สุดของยูเครน ก่อนถูก ชัคเตอร์ โดเน็ทส์ สอยเข้ารังในปี 2559

ช่วงฟูมฟักตัวเองและพัฒนาฝีเท้า

หลังย้ายมาอยู่ยักษ์ใหญ่ประจำลีกยูเครน ก็เริ่มพัฒนาฝีเท้ามาเรื่อยๆในอคาเดมี่ ก่อนได้โอกาสสัมผัสลงตัวจริงครั้งแรกใน ยูเครน คัพ กับ โอลิมปิก โดเน็ทส์ ในวัย 17ปี แต่ก็แน่นอนด้วยวัยแค่นั้นไม่ว่าจะจัดจ้านแค่ไหน แต่ในสนามใหญ่มันยังดูกว้างใหญ่อยู่ดี

มูดริค จึงถูกส่งไปฝึกฝีตีนเพิ่มกับ Arsenal Kyiv ในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล 2018-19 ก่อนกลับมาชัคเตอร์ อีกครั้งก็โดนยืมไป Desna Chernihiv ในปี 2020 และทีนี้เขากลับมาอย่างผงาดให้กับยักษ์ยูเครนเลย โดยเขาเริ่มฉายแววฝีตีนโดดเด่นในฤดูกาล 2021-22 โดยลงเล่นไป 19 นัด ยิงได้ 2 ประตู

เสียดายโอกาสเขาน้อยไปด้วยเพราะเจอเหตุการณ์ รัสเซีย-ยูเครน ทำให้การฉายแสงเขาสั้นกว่าที่ควรในตอนนั้น แต่คนมันจะจรัสแสงอะ เพราะในนัดที่ ชัคเตอร์ แพ้ให้กับ เรอัล มาดริด 1-2 ในรอบแบ่งกลุ่ม ชปล. มูดริค ก็เรียกร่างทอง ฟอร์มแจ่มมาประทับร่างเรียกเสียงฮือฮาได้พอสมควรและเสียงโอดร้องของ คาบาคาล ที่โดนเขาเล่นงานจนเละเทะ

สื่อ ข่าวฟุตบอล เริ่มมีชื่อเขาในวงจรโซเชี่ยล ตลาดนักเตะ ที่กำลังเปิดก็เริ่มมีหลายทีมใส่ชื่อเขาลงปในลิสต์ อย่าง เอฟเวอร์ตัน,เบรนฟอร์ด ที่อยากจะเข้าดีล แต่ มูดริค ก็เปิดเผยว่าสื่อ ข่าวฟุตบอลต่างประเทศ ไว้ว่า ตั้งเป้าย้ายไปทีมใหญ่เท่านั้น

โดยเข้าให้สัมภาษณ์กับ สปอร์ต อารีน่า สื่อ ข่าวฟุตบอล ชื่อดังไว้ว่า 

“ผมจะไม่ย้ายไป เบรนฟอร์ด แน่นอน พวกเขาเป็นทีมกลาง ตารางพรีเมียร์ลีก ที่ไม่ได้เข้าร่วมชิงถ้วยยุโรป สำหรับผมแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก”

เกิดอะไรขึ้นต่อมากับ มูดริค ใน ตลาดนักเตะ

มิไคโล มูดริค

มาในปัจจุบันกับผลงานล่าสุด 12 นัด 7 ประตู 7 แอสซิสต์ ยักษ์ใหญ่ทั่วแคว้นยุโรปหันมองกันตาเป็นมันและเฝ้ารอ ตลาดนักเตะ ช่วงมกราคมเปิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาร์เซน่อล ที่ออกตัวแรงไปถามไถ่ค่าตัวก่อนใครเลย

ต้องยอมรับว่าฤดูกาลล่าสุด ดาวโรจน์ยูเครเนี่ยน พัฒนาฝีเท้าแบบโดดเด่นออกหน้าออกตามาก สกิลจัดจ้านเกินวัยที่สำคัญเลยคือ การจบสกอร์ที่เข้มมากทำให้ค่าตัวจากทีมกลางตารางจ้องดีลในช่วง ตลาดซื้อขายนักเตะ ต้องหลบทางให้ทีมใหญ่เงินถึงเข้ามาเจรจาแทน

สปีดดีจัด ทักษะเยี่ยม เล่นได้สองตีน แต่ความแข็งแกร่งคือหัวใจหลัก

มิไคโล มูดริค

ฝีเท้าของ มูดริค ตอนนี้ถ้าเทียบกับดาวรุ่งก็คือ โคตรดาวรุ่งของยุคอีกหนึ่งคน ในรอบแบ่งกลุ่ม ชปล. ไม่มีชายใดวิ่งเร็วไปกว่าไอ้หนุ่มหัวทองรายนี้กับ 36.6 กิโลเมตร/ชั่วโมง เท่ากับ อุสมาน เดมเบเล่ เคยทำไว้ แถมเจ้าตัวยังมั่นใจว่าจะสามารถทำความเร็วระดับ 40 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้อีกด้วยและด้วยความสูง 175เซนติเมตร ซึ่งถือว่าสูงใหญ่พอดีในตำแหน่งผนวกกับความแข็งแรงของร่างกายที่พร้อมปะทะจริงๆ

ไวจัด สกิลครบ แข็งแกร่งและโคตรคล่องตัว ความลับนั้นที่มาก็คือแม่เขาบังคับให้เขาเรียนเต้นด้วย หากเด็กชายมูดริค อยากจะเล่นฟุตบอล จึงไม่แปลกใจที่เขาสามารถควบคุมบอลได้เหมือนถนัดทั้งสองเท้า ซึ่งเป็นจุดเด่นอย่างมาก เพราะจะทำให้เขาสามารถพุ่งฉีกหนีตัวรับแบบตัวต่อตัวไปในทิศทางไหนก็ได้ตามใจนึก

เข้าห้องกาลเวลา

โค้ชของชัคเตอร์ โดเน็ทส์ เคยเผยกับแหล่ง ข่าวฟุตบอล เอาไว้ว่า “ผมไม่เคยสงสัยในพรสวรรค์ของ มูดริค เลย แต่ผมสงสัยเรื่องอารมณ์ในสนามของเขามากกว่า ตัวเขายังมีอะไรอีกมากที่ต้องเรียนรู้ แน่นอนว่าเขาเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม เขาควรปรับทัศนคติและมองข้ามเรื่องเล็กน้อยในสนาม

โค้ชชาวโปรตุเกสกล่าวต่อว่า เขามุ่งมั่นและเต็มที่กับการซ้อมเสมอ พิเศษกว่าใครๆไม่ว่าจะในสนามฝึกซ้อมหรือแม้กระทั่งโรงยิม ไม่ต้องแปลกใจเลยที่ทั้งเทคนิคและร่างกายของเขาจะอยู่ในจุดสุดยอดขนาดนี้

แบกชื่อ นิว เนย์มาร์ ติดตัว

มิไคโล มูดริค

เขาถูกตั้งชื่อไว้ว่า เนย์มาร์ยูเครเนี่ยน แต่ตัวเขาบอกตามตรงว่าไม่ชอบชื่อนี่เท่าไร เพราะตัวเขาชอบให้คนเรียกว่า โมดริชยูเครเนี่ยน ซะมากกว่า แต่เพราะเจ้าตัวเล่นในตำแหน่งปีกซ้าย จึงเลี่ยงที่จะถูกเปรียบเทียบกับซุปตาร์บราซิลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แน่นอนว่าหากจะไปถึงระดับ เนย์มาร์ คงยังอีกยาวไกล แต่หลายๆคนก็มองว่าเขาดีพอไปถึงจุดนั้นได้ อย่าง ดาริโอ เซอร์น่า ผอ.การกีฬาของชัคเตอร์ โดเน็ทค์ กล่าวว่า 

“หากนับเฉพาะตำแหน่งปีก นาทีนี้เขาเป็นรองแค่ คิลเลี่ยน เอ็มบัปเป้และวินิซิอุส จูเนียร์ เท่านั้น”

ส่วน โรเบอร์โต้ เด เซอบี้ อดีตเจ้านายเก่าที่ปัจจุบันคุมไบร์ทตัน บอกสั้นๆว่า “มูดริค มีศักยภาพพอจะคว้า บัลลงดอร์” โดยก่อนย้ายมาเชลซี มูดริคได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสร ชัคเตอร์ โดเน็ทค์ ในปี 2021

สิ่งที่ มูดริค ต้องเจอหลังสวมชุดสิงห์บลู

บัลลงดอร์ ยังอีกไกล เพราะกำลังสร้าง มองข้ามไปก่อน นาทีนี้ไอ้หนู มูดริค โฟกัสแค่การตอบแทนค่าตัวมหาศาลที่ ต้นสังกัดใหม่ทุ่มให้ก็พอและเกมแรกที่เจ้าตัวมีสิทธิลงเล่นเลยคือเจอ หงส์แดงลิเวอร์พูล ยอดทีมแห่งเกาะอังกฤษ โดยเจ้าตัวน่าจะถูกใช้บริการอย่างแน่และถือเป็นการเปิดตัวของความหวังของดาวจรัสแสงคนใหม่วัย 22 ปี

แฟนๆ สิงห์บลูคงรอเห็นการเล่นของ ไอ้หนุ่มผมทรงแหกหีควายรายนี้ไม่ไหวแล้วใช่ไหมละ….แพงขนาดนี้ มึงจะเก่งขนาดนี้ ศอกดำก็สงสัยเช่นกันครับ…….